วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

มาตามปาก

ครั้งที่ 2 วันที่ 1 เดือน ธันวาคม พ.ศ 2553
ชื่อผู้แต่ง  ปางบรรพ์
สำนักพิมพ์ ไพลินบุ๊กเน๊ต  ปีที่พิมพ์ 2547
สรุปสาระสำคัญที่ได้จากการอ่าน
   ผมยังจำได้ดีว่าในวันเกิดเหตูนั้น ผมกับเดียวซึ่งอยู่ระหว่างเรียนหนังสือที่มหาลัยในตัวเมืองขอนแก่น  ผมกับ เดียวเป็นคนตำบลเดียวกันแต่คนละหมู่บ้าน เวลาเรากลับมักจะเดินทางไปด้วยกัน ครั้งสุดท้ายที่ผมกับเดียวเดินทางกลับบ้านนั้นจำได้ว่าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ ก่อนจะสอบปลายภาค 2 สัปดาห์ เราสองคนได้ต่างกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว ตกค่ำผมขับรถมอเตอร์ไซค์ไปบ้านของเดียวเพี่อจะไปหาเพื่อนสนิก ซึ่งอยู่คนละตำบลประมาณ 3 ทุ่ม ผมกับเดียวก็พากันกลับระหว่างทางขณะที่ผมขับรถอยู่บนถนนลาดยาง ผมได้เห็นร่างของชายคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่บนถนนไม่ได้ใส่เสื้อ เมื่อรถเข้าไกล้มากขึ้นผู้ชายคนนั้นก็พลิกร่างใบหน้าของเขาอาบโชกไปด้วย เลือดแดงสด ผมไม่กล้าจอดรถให้ความช่วยเหลือ จนกระทั้งรถผ่านบริเวณที่ชายคนนั้นนอนอยู่ แล้วเดียวถามว่า "แล้วถ้าหากเขาเป็นผีล๋ะ"ผมเลยตอบว่า"ถ้าเป็นผีก็ให้มันวิ่งตามมาเองสิไม่ เห็นเป็นอะไรเลย"ผมขับรถไปเรื่อยฯเดียวทั้งจิกและหยิกเอวผม แล้วให้ผมรีบความเร็วไปอีกเพราะเดียวเห็นชายคนนั้นกำลังวิ่งตามรถเครื่องมา จนเกือบจะทันรถของเขาทั้งสอง วิญญานชายคนนั้นคงตามมาเพราะผม ผมดันปากเสียบอกให้เขาตามมา
ข้อคิดที่ได้จากการอ่าน
   1.การที่เราจะพูดหรือจะกล่าวไดฯนั้นก้อสำคัญเช่นกัน
   2.ติดไห้รอบขอบและไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะพูหรือกล่าว
   3.ความประมาทย่อมพาความหายนะแก่ตัวเอง
การนำข้อคิดที่ได้จากการอ่านไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
  1.ถ้าเราให้ความสำคัญกับการพูด เช่น คิดให้รอบคอบก่อนจะพูดอะไร ก็จะทำให้เราไม่ลำบากที่หลีง
  2.หากเราประมาทไม่คิดก่อนจะพูดก็จะทำให้ภัยนั้นตามมา
ข้อความที่ประทับใจ / ข้อคิดเห็นของนักเรียน
     ผลของการนำความหายนะมาไห้เราส่วนหนึ่งมักจะมาจากการพูดที่ไม่รอบคอบของตัว เอง ดังนั้นเราควรให้ความสำคัญกับการพูดเพื่อจะทำให้เราลดความหายนะส่วนหนึ่งออก ไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกท่าน!!!
และยินดีรับเรื่องสั้นที่ท่านจะแบ่งปัน เพื่อนำมารวบรวมไว้เพิ่มเติมและเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นต่อๆไป